ประโยชน์ของรางน้ำ

          ในสมัยก่อนเรานิยมติดรางน้ำฝนกัน เพื่อรองน้ำฝนมากักเก็บไว้ใช้ในอาการอุปโภค-บริโภค  แต่ในปัจจุบันคนไม่นิยมดื่มกินน้ำฝนกันแล้ว  เหตุผลข้อนั้นเลยลดความสำคัญลงไปและเนื่องจากประเทศไทยเป็นเขตที่มีฝนตกชุกการติดรางน้ำฝนจะช่วยจัดการปริมาณน้ำฝน บนหลังคาให้ไหลลงไปที่ท่อระบายน้ำ หรือไหลลงต่ำได้อย่างง่ายดาย ลดความเสียหายที่อาจเกิดจากการที่มวลหยดน้ำ ตกกระแทกพื้นทำให้มีละอองน้ำเล็ก กระจายไปทั่ว หยดน้ำฝนสามารถทำลายสนามหญ้าหรือ ต้นไม้ขนาดเล็กให้เกิดความเสียหายได้ การติดรางน้ำยังช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดกับเพื่อนบ้านของเรา เช่นน้ำฝนจากปลายหลังคา/กันสาด พุ่งกระเด็นเลยเขตรั้วบ้านของเราออกไป สร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น

ประโยชน์ของรางน้ำ

• รวบรวมน้ำฝนจากหลังคาบ้านให้ไหลลง ณ จุดที่ต้องการ
• ป้องกันแปรชายน้ำหลังคาบ้าน ไม่ให้ผุกร่อนก่อนเวลาอันสมควร
• ป้องกันคราบน้ำฝนที่ชะล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกจากหลังคาบ้าน ไหลลงสู่ผนังบ้าน หน้าต่าง ประตู วงกบ และบริเวณบ้าน ทำให้เกิดคราบสกปรกตามผนังบ้าน และอาจก่อให้เกิดเชื้อรา รวมถึงทำให้สีบ้านหม่นหมองก่อนเวลาอันสมควร
• ป้องกันไม่ให้น้ำฝนตกกระเซ็นสู่บริเวณบ้านใกล้เคียง
• ป้องกันปัญหาดินทรุด เนื่องจากน้ำที่ขังในดินปริมาณมากๆ รอบตัวบ้านอาจก่อให้เกิดปัญหาดินทรุด ถ้าบ้านคุณไม่มีระบบการวางท่อน้ำที่ดีและยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย
• ป้องกันแรงกระแทกของน้ำไปยังต้นไม้ และสวนรอบบ้าน น้ำฝนที่รวมตัวปริมาณมากบริเวณจั่วบ้าน ซึ่งกระแทกลงตามมุมบ้านที่มีสวนและต้นไม้ อาจทำให้ต้นไม้ตายได้
• ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ซ่อมแซมบ้าน และยังช่วยรักษาหน้าดินชั้นบน จากการชะล้างของน้ำฝน
• เมื่อเรารู้ประโยชน์ของการติดรางน้ำกันไปแล้ว เราจะมาเปรียบเทียบคุณสมบัติของรางน้ำแต่ละประเภทกัน รางน้ำที่มีขายตามท้องตลาดมีปลายรูปแบบ จากวัสดุที่ต่างกัน อาทิ รางน้ำไวนิล, รางน้ำไฟเบอร์กลาส, รางน้ำสเตนเลส, รางน้ำสังกะสี, เหล็กชุบสี

1.รางน้ำสังกะสี –เป็นรางน้ำที่ได้รับความนิยมในสมัยก่อน เพราะติดตั้งง่าย และราคาไม่แพง *ข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือรางน้ำสังกะสีผุง่าย และเป็นสนิม

2.รางน้ำสแตนเลส –เป็นรางน้ำที่มีความทนทานสูง ไม่เกิดสนิม(สเตนเลสเกรด 304) นิยมใช้กับรางน้ำโรงงานอุตสาหกรรม และเริ่มมีความนิยมใช้กับบ้านที่อยู่อาศัย *ข้อดี/ข้อเสีย รางน้ำสเตนเลสอายุการใช้งานนาน 10ปี+ แต่จะเกิดปัญหารั่วจากจุดเชื่อมรอยต่อที่อาจะต้องมีการทำความสะอาดและเชื่อมรางใหม่* และมีราคาสูงเมื่อเทียบกับรางน้ำประเภทอื่น แต่ถือว่าคุ้มราคา

3.รางน้ำอลูมิเนียม – เป็นรางน้ำที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนสูง, มีน้ำหนักเบา, อายุการใช้งานนานถึง 25 ปี(กรณีที่มีการบำรุงรักษาได้อย่างถูกวิธี)

4.รางน้ำไวนิล – เป็นรางน้ำที่ผลิตจากพลาสติก เกรดที่ใช้สำหรับงานภายนอก มีหลายสีให้เลือกผิวเรียบ มันเหมาะกับบ้านทุกแบบ ทุกสไตล์ ไม่เป็นสนิม (*ข้อควรระวัง – รางน้ำไวนิลตามท้องตลาดมีหลายเกรด ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการเลือกซื้อ)

5.รางน้ำไฟเบอร์กลาส – เป็นรางน้ำที่นิยมติดตั้งกับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมี เนื่องจากไฟเบอร์กลาสเป็นวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี ทำให้ไม่เกิดการผุกร่อน หรือเป็นสนิม การเชื่อมรางใช้เทคนิคการหล่อผสานน้ำยาเชื่อมไฟเบอร์ กับเส้นใยไฟเบอร์ ทำให้ท้องรางเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนบ่อปลา 

ขอบคุณเนื้อหาจาก https://bprungruang.com/ประเภทรางน้ำฝน